SKE จะลงทุน 798.84 ลบ.เข้าถือหุ้น 80% โรงไฟฟ้าชีวมวล 9.9 MW ในจ.แพร่ คาดแล้วเสร็จ Q2/62 อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq10/2788842

บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันศุกร์ (23 ก.พ.) เห็นชอบให้บริษัทลงทุนในธุรกิจโรงงานผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.90 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าในปริมาณพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 8.00 เมกะวัตต์ ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านแม่กระทิง ตำบลไผ่โทน อำเภอร้อยกวาง จังหวัดแพร่ โดยจะใช้เงินลงทุนจำนวน 798.84 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/62

การลงทุนดังกล่าว แบ่งเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แม่กระทิง เพาเวอร์ จำกัด (MKP) ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจาก กฟภ. โดยซื้อหุ้น MKP จากบริษัท เอส ที เอฟ อี จำกัด สัดส่วน 80% เป็นเงินจำนวน 80 ล้านบาท หลังจากนั้น MKP จะเพิ่มทุนอีก 25.73 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 10 บาท เพื่อเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม โดยบริษัทจะเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น เป็นจำนวนเงิน 205.84 ล้านบาท หลังจากนั้นจะลงทุนเพิ่มทุนเพิ่มเติมเพื่อใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนอีก 513 ล้านบาท

ภายหลังจากการเข้าลงทุนของบริษัท MKP จะดำเนินการว่าจ้าง บริษัท แอดวานซ์ เพาเวอร์ คอนเวอร์ชั่น จำกัด (APCON) เพื่อก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าดังกล่าว ในรูปแบบจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ (Turnkey) ประกอบด้วยงานโยธา งานอาคาร งานระบบ งานติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบ และอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 14 เดือน

สำหรับการเข้าทำรายการดังกล่าวบริษัทจะใช้เงินลงทุนจากแหล่งต่าง ๆ ดังนี้ เงินซื้อหุ้นสามัญเดิม และหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ MKP มาจากเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 285.6 ล้านบาท และเงินลงทุนในโครงการส่วนที่เหลือ และเงินทุนหมุนเวียน มาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวน 513 ล้านบาท สำหรับลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลทางบริษัทในนาม MKP ได้รับข้อเสนอเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินแล้ว

บริษัทคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจากการลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ขนาดกำลังการผลิต 9.90 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากรัฐบาลประกอบกับเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และสร้างผลกำไรของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ที่มา: http://www.ryt9.com/s/iq10/2788842