MORNING CALL ACTION NOTES

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ผันผวนแดนบวกช่วงเช้าก่อนปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงท้ายตลาด จากแรงกดดันโดยกลุ่ม ENERG BANK ICT PETRO CONMAT ภายใต้ปัจจยลบรอบด้านจากต่างประเทศ ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,819.29 จุด (-19.67 จุด) Volume 6.45 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,494.19 ลบ. TFEX Net +3,143 สัญญา ตราสารหนี้ +7,005.36 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่งรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์

+สหรัฐดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ +0.6% ในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

+ ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% พร้อมคงวงเงิน QE ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงเดือนก.ย. และมีโอกาสขยาย QE หากมีความจำเป็น

+เยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 117.6 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์.

+รมว.คลัง เตรียมเสนอครม.สัปดาห์หน้า ให้ SME ที่มียอดขายไม่เกิน 100 ลบ.นำค่าจ้างรายวันหักค่าใช้จ่ายได้ 1.15 เท่า

-สหรัฐเปิดเผยผู้ขอสวัสดิการเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 233,000 ราย สอดคล้องกับยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลง 9.3% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 15 เดือน

-น้ำมันดิบปิดลบจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์

-สนช.ผ่านร่างกม.ลูกส.ส. วาระ 2-3 เลื่อนบังคับใช้ออกไป 90 วัน ส่งผลให้กำหนดการเลือกตั้งขยับเป็นช่วงต้นปี 62

+/-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาขาย 1.4 พันลบ. ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าสู่ 31.43 Bath/USD

ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐเดินหน้าทำนิวไฮ และส่วนปัจจัยกดดันมาจากราคาน้ำมันปรับลง fund flow ผันผวนวานนี้พลิกขายสุทธิ และปัจจัยภายในประเทศเรื่องกำหนดเลือกตั้งที่มีแนวโน้มเลื่อนไปในปี 62 ดังนั้นคาด SET จะรีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,826 หากไม่ผ่านมีโอกาสปรับตัวลงต่อได้ มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ ปรับแก่วงตัวในกรอบ 1,803-1,829 จุด

กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

  • NYT ยอดส่งออกรถยนต์ ธ.ค.โต 11.28% มาที่ 95,834 คัน
  • CENTEL ERW MINT นักท่องเที่ยว ธ.ค. 60 ทำสถิติสูงสุดใหม่
  • AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.
  • AIT ILINK ITEL กสทช.เตรียมประมูลเน็ตชนบทเดือนก.พ. 61
  • หุ้นที่ผลประกอบจะเติบโตในไตรมาส 4/60 ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D SGP TRUE PTTEP PTTGC TPCH SYNEX IVL ASIMAR VCOM ORI

หุ้นแนะนำพิเศษ

FTE (ราคาปัจจุบัน 3.28 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.25 บาท)

  • จาก Analyst Meeting คาดแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q60 อาจมีการอ่อนตัว QoQ หลังงานรับเหมามูลค่างานราว 25 ลบ. มีการ Delay ส่งมอบงาน นอกจากนี้ ยังคงยืนยันการก่อสร้างโกดังสินค้ามาทดแทนการเช่าใช้ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารเปรยด้วยสถานะทางการเงินดีเยี่ยม (D/E Ratio 0.26 เท่า) จึงมีโอกาสจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิหลังจัดสรรเป็นทุนสำรองตามกฏหมายแล้วทั้งหมด
  • ส่วนปี 61 ตั้งเป้ารายได้โต 20% หลังเริ่มเห็น Potential Project จาก EGAT แล้วกว่า 400 ลบ. โดยอยู่ระหว่างการประมูลกว่า 200 ล้านบาท รวม 5 – 6 โครงการ นอกจากนี้ ยังมีโครงการอื่นๆอีกจากทั้ง MEA (การไฟฟ้านครหลวง) 50 ลบ. AOT อีก 50 ลบ.มาเป็นส่วนเพิ่ม จาก Backlog งานรับเหมาในมือกว่า 260 ลบ. เบื้องต้นคาดโอกาสในการจ่ายปันผลครั้งที่ 2 ในรอบผลประกอบการปี 60 อาจสูงสุดถึง 7% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” Upside กว่า 30%

หุ้นมีข่าว

  • AIT ILINK ITEL “กสทช.” เตรียมประมูลเน็ตพื้นที่ชนบท 15,732 หมู่บ้าน จ่อชงเข้าคณะอนุกลั่นกรองฯ โทรคมนาคมสัปดาห์หน้า ก่อนเข้าบอร์ด กสทช. วันที่ 7 ก.พ. 2561 เพื่อพิจารณารูปแบบดำเนินการ คาดประกาศประมูลไม่เกิน 15 ก.พ. 2561
  • IRPC (ราคาปิด 7.40 Bloomberg Consensus 7.54) มาร์จิ้นค่ากลั่นดี-สเปรดพุ่ง แถมกำลังการผลิตโตพรวด 20% หลังเพิ่มประสิทธิภาพ ยืนยันเดินหน้าลงทุนโครงการ BEYOND EVEREST 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ปูพรมรับรายได้โรงไฟฟ้า คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์ เต็มปี (ที่มาทันหุ้น)
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ IRPC ใน 4Q60 และปี 61 เนื่องจากบริษัทมีการปรับปรุงหอกลั่นทำให้ผลิตน้ำมันที่มีมูลค่าสูงได้เพิ่มขึ้น และมีการขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PP ซึ่งแล้วเสร็จในปลายปี 60 ที่ผ่านมาเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการ IRPC ในปี 4Q60 และปี 61 โดย Bloomberg Consensus คาดกำไร 4Q60 ที่ 3.8 พันล้านบาท +18%QoQ และคาดกำไรปี 61 ที่ 1.26 หมื่นล้านบาท +24%
  • SKE จะลงทุน 9.5 ลบ.ถือหุ้น 75% ใน"อาร์อี ไบโอฟูเอลส์"ผลิตก๊าซไบโอมีเทนอัด มูลค่าโครงการ 80 ลบ.พร้อมเปิดดำเนินงาน Q3/61
  • PRINC ทุ่มงบไม่เกิน 900 ลบ.เข้าซื้อกิจการกลุ่ม"โรงพยาบาลปิยะมินทร์"ขยายเครือข่ายรพ.ในกทม.-ปริมณฑล คาดแล้วเสร็จ Q1/61
  • บอร์ด TLUXE อนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้าพลังางานลมในญี่ปุ่น จำนวน 20 ยูนิต มูลค่า 221.06 ลบ.

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/790165